วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559

7 วิธีการโหนบาร์ที่ถูกต้อง พร้อมการสร้างกล้ามเนื้อที่ถูกหลัก 1






 ต้นกำเนิดของเงินออกจะเป็นเรื่องน่าพิศวง ระบบแลกเปลี่ยนแต่เดิมได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปในยุคใดกัน? แล้วความโลภโมโทสันของมนุษย์ได้ถูกตีค่าเป็นเศษชิ้นของโลหะได้อย่างไรกัน คำตอบที่นอร์แมน โอ บราวน์!ห้ไว้นับว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะช่วยให้เราได้เห็นถึงบทบาทของเงินในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยทั่วไปเงินในยุคก่อนและในปัจจุบันยังคงความสักดื้ลิทธอยู่"เราได้รับรู้กันมานมนานแล้วว่า ตลาดการค้าแห่งแรกเป็นสถานที่อันสักดิ้ลิทธี้ดังธนาคารแห่งแรกก็คือวัด และผู้ที่ออกเหรียญกษาปณ์เป็นคนแรกๆ ก็คือพระหรือกษัตริย์ที่เป็นพระ'’3 เหรียญกษาปณ์เหรียญแรกถูกผลิตและรับรองค่าโดยวัด โดยมีการพิมพ์พระฉายาขององค์พระผู้เป็นเจ้าลงบนเหรียญด้วยเพื่อลิอถึงอำนาจในการปกปักคุ้มครอง เมื่อเงินกอปรด้วยความสักดื้ลิทธี้ดังกล่าวมันจึงกลายเป็นสิงเย้ายวนใจไปโดยปรียาย แต่ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะคุณสามารถใช้เงินซื้อหาลิงของต่างๆ ได้ ในทางกลับกันเพราะตัวของมันเองเป็นที่ยอมรับของคนจำนวนมาก เราจึงสามารถใช้เงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับลิงของต่าง ๆ  บาร์โหนเพิ่มความสูง ได้ผลที่ตามมาคือ “อำนาจสักดิ้ลิทธ!นสากลจักรวาลกลายเป็นสมบัติของมนุษย์ทุกคนได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปวัด และคุณสามารถเดินทางไปสู่ความเป็นอมตะแห่งชีวิตได้ด้วยการไปตลาดเท่านั้น,, นี่เป็นเหตุให้เกิดบุคคลอย่างใหม่ขึ้น “ผู้ซึ่งวางคุณค่าและความเป็นอมตะแห่งชีวิตไว้บนฐานของจักรวาลวิทยาที่ผูกติดแน่นกับเหรียญเงิน” ระบบคุณค่าใหม่จึงเกิดขึ้นมาและได้รับการล่งเสรีมให้เข้มแข็งมากขึ้น โดยระบบเศรษฐกิจอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน“เงินกลายเป็นสาระแห่งการดำรงอยู่ทั้งปวง...เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอมตะ เป็นวิธีการสำเร็จรูปที่จะช่วยเพิ่มค่าของมนุษย์คนหนึ่งด้วยการโยงเขาเข้ากับวัตถุและเหตุการณ์ที่สำคัญๆในโลกของเขาเอง”4 นอกไปจากประโยชน์ในการเป็นลี่อกลางสำหรับแลกเปลี่ยนแล้ว เงินได้กลายเป็นวิธีการล่าสุดของมนุษย์ที่จะสะสมตัวตนให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อต่อสู้กับสำนึกภายในอันน่ารำคาญที่คอยเตือนว่า  บาร์โหนเหล็ก ตัวตนของเรานั้นไม่มีอยู่จริง

ในอดีตเพราะความลังเลสงลัยว่าตัวตนนั้นเป็นเพียงมายาการ เราจึงต้องไปวัดเพื่อจะพิสูจน์ว่าตัวตนมี  พุทรริบ้ทิอยู่จริง ด้วยการอธิษฐานเพี่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า แต่ทุกวันนี้เราพิสูจน์ว่าตัวตนมีอ ยู่จริงโดย ผ่านเงินตราป้ญหาก็คือในท้ายที่สุดเราต้องจ่ายให้กับความพยายามนด้วยราคาแพงคุณค่าที่เราให้กับเงินส่งผลกรรมกลับมาทำร้ายตัวเราเอง ยิ่งเราให้คุณค่ากับมันมากเท่าไร ก็เท่ากับเราใช้มันเพื่อประเมินคุณค่าของตัวเองมากขึ้นเท่านั้นในหนังสือ ชั่วโมงแห่งความตายของเรา (เท The Hour of Our Death)ซึ่งเป็นผลงานการคืกษาเรื่องความตายอันยิ่งใหญ่ในวัฒนธรรมตะวันตก ฟิลิปอารีส์ ได้ทำให้นักวิจารณ์ทั่วไปต้องหงายเกังไป ทุกวันนี้เราพากันพรํ่าบ่นถึงอิทธิพลของวัตถุนิยม แต่เขากลับบอกว่าอันที่จริงมนุษย์ทุกวันนี้ไม,ได้เป็นผู้นิยมวัตถุเลย เนื่องจาก  “วัตถุสิ่งของต่างๆ ได้กลายเป็นเพียงปัจจัยในการผลิต หรือสิ่งที่ใช้เพี่อการเสพย์หรือบริโภค ในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปพวกเขาไม่มีความเชื่อในเรื่องวัตถุอิกต่อไป หากพวกเขาเชื่อในพระเจ้า ในขณะที่คนในยุคกลางยังมีความเชื่อทั้งในเรื่องวัตถุและพระเจ้า เชื่อในเรื่องชีวิตและความตาย เชื่อในความหลงใหลได้ปลื้มกับวัตถุและการสลัดหลุดพ้นอยู่บ้าง’'5ปัญหาของพวกเราในทุกวันนี้คือ  วิธีโหนบาร์ เราไม่เชื่อเรื่องวัตถุอีกต่อไป หากเราเชื่อถือเพียงสัญลักษณ์ ชีวิตของเราจึงถูกครอบงำด้วยสัญลักษณ์ต่าง ๆ เหล่านี้และตกอยู่ใต้อิทธิพลของมัน เราถูกบงการด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เราพากันยึดถืออย่างจริงจัง เราไม่ได้ตกอยู่ใต้อิทธิพลของวัตถุที่ถูกชื้อหามาได้ด้วยเงินสักเท่าไร หากเป็นอำนาจและสถานะที่ตามมากับวัตถุสิ่งของชิ้นนั้นมากกว่าเราไม่ได้ถูกครอบงำด้วยรถยนต์ แต่การครอบครองรถยนต์เล็กซัสมีอำนาจกำหนดความเป็นตัวเรา (โตโยต้า เล็กชัสถือว่าเป็นรถยนต์หรูหราราคาแพงสำหรับชาวญี่ป่น - ผู้แปล) มนุษย์ในยุคปัจจุบันจึงไม่สามารถยอมรับระบบเศรษฐกิจแบบที่สร้างความเท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ตามที่เอินเนสต์เบคเกอร์กล่าวไว้ว่า "เพราะพวกเขาไม่มีความเชื่อมั่นในการหลุดพ้นด้วยตนเองหรือกระทั่งสัญลักษณ์แห่งความเป็นอมตะแห่งชีวิตในโลกอื่น สิ่งที่พวกเขาเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเป็นอมตะแห่งชีวิตของเขาได้มีเพียงทรัพย์สินอันมองเห็นfliauinuiuunsiเดวิด ลอยและ จับต้องได้” หรือตัวตนที่แท้จริงของเขา ความกระหายทางจิตวิญญาณหรืออย่างน้อยความปรารถนาที่จะเป็นส่วนหนึ่งในสากลจักรวาล ได้ถูกลดทอนค่าลงเหลือเพียงความปรารถนาที่จะครอบครองรถยนต์คันใหญ่กว่าเพื่อนบ้านเราไม่สามารถขจัดความคักดิ้ลึทธิ้ให้หมดไปได้ เพราะลึกๆ แล้วมนุษย์เราไม่สามารถขจัดความประหวั่นกลัวให้หมดไปได้ นอกจากจะเก็บกดมันเอาไว้ซึ่งในที่สุดก็จะยิ่งยากในการควบคุมและถูกกดดันด้วยสิ่งที่พยายามเก็บกดไว้นั่นเอง”6เรามีแนวโน้มที่จะพิจารณามูลเหตุจูงใจในการทำกำไร ว่าเป็นเรื่องมีเหตุผลและเป็นธรรมชาติ

(ดังที่อด้ม สมิธเรียกว่าเป็น “มือที่มองไม่เห็น”อันเมตตานั่นเอง) แต่นั่นไม่ใช่ความเชื่อที่มีมาแต่ดั้งเดิมในสังคมบรรพกาลเลยอันที่จริง ในอดีตแรงจูงใจเช่นนั้นมักจะถูกมองว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวด้วยซํ้าไปสำหรับพวกเรา เงินตรากลายเป็นตัวกำหนดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ในลังคมบรรพกาล มนุษย์ไม่ได้มีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนระหว่างกิจกรรมทางเศรษฐกิจกับเรื่องอื่นๆ ดังที่โพลันยีบันทึกไว้ว่า“เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า ระบบเศรษฐกิจของมนุษย์จะซ่อนอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ทางสังคม มนุษย์ไม,ได้กระทำการใดเพื่อมุ่งปกป้องผลประโยชน์ที่ตนเองจะได้จากการครอบครองวัตถุ พวกเขาทำไปเพื่อปกป้องสถา!4ภาพทางสังคม เพื่อรักษาสิทธิในการเรียกร้องจากสังคม และทรัพย์สินของสังคมมนุษย์จะให้คุณค่าแก่วัตถุตราบเท่าที่สนองเป้าหมายนี้เท่านั้น...ระบบเศรษฐกิจจะต้องดำเนินไปบนพื้นฐานของแรงจูงใจที่ไม่มุ่งการค้ากำไร”7มนุษย์ในยุคเดิมไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องหาทางชดเชยความรู้ลึกขาดด้วยเงินตรา ด้วยพวกเขามีวิธีอื่นๆ อยู่แล้ว ทอว์นิย์น่าหลักการนี้กลับคืนมาสู่เรา ด้วยการค้นพบความจริงในลักษณะเดียวกันในประวัติศาสตร์ของตะวันตก“ไม่มีทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ใดเลยในยุคกลาง ที่ไม่สัมพันธ์กับการแสวงหาผลลัพธ์ที่ชอบธรรม ทั้งไม่มีการสถาปนาวิทยาศาสตร์ทางสังคมใด ๆที่ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า ความกระหายต่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็น บาร์โหนติดผนัง  เแทรวินัทิพลังอันสมํ่าเสมอ สามารถวัดได้ และยอมรับได้ดังเซ่นพลังตามธรรมชาติชนิดอื่นๆ หรือเป็นข้อมูลที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้และชัดเจนในตัวชองมันเองสำหรับนักคิดในยุคกลางแล้ว สิงเหล่านี้จะต้องเป็นเรื่องที่แทบจะปราศจากตรรกและคิลธรรมใดมารองรับ เซ่นเดียวกับการที่อ้างเอาหลักปรัชญาทางลังคมมาส่งเสรมให้มนุษย์กระทำการใดๆ อันปราศจากการยับยั้ง โดยตั้งอยู่บนลักษณะพื้นฐานของมนุษย์ที่ว่าด้วยความกระหายในการต่อสู้และลัญชาติญาณทางเพศ”

บาร์โหนสำเร็จรูป

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ติดบาร์โหนอย่างไรไม่ให้หลุด และ รับน้ำหนักได้ดี






คณะกรรมการ 2 ประเภท คือคณะกรรมการบริหารที่เรียกว่าสภาสังฆมหานายก และคณะกรรมการอำนวยการนั้น ยังมีอยู่ในระดับล่างๆตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับอำ๓อ ระดับตำบล สภาสังฆมหานายกทุกระดับมาจากคณะกรรมการอำนวยการ (และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสภาสังฆมหานายกระดับบนอีกต่อหนึ่ง) ส่วนกรรมการอำนวยการตั้งแต่ระดับรัฐลงมาก็มาจากการเลือกตั้งของกรรมการอำนวยการระดับล่าง (เช่นกรรมการอำนวยการจังหวัดมาจากการเลือกตั้งของกรรมการอำนวยการตำบลทุกตำบลในจังหวัดนั้น) จะเห็นได้ว่าคณะสงฆ์พม่ามีทั้งการปกครองจากบนลงล่างและจากล่างขึ้นบน  บาร์โหนติดประตูราคา กล่าวคือสภาสังฆมหานายกระดับบนมีหน้าที่กำกับดูแลสภาสังฆมหานายกระดับล่าง ส่วนคณะกรรมการบริหารระดับล่างมีหน้าที่คัดเลือกผู้บริหารระดับบน

กล้ามเนื้อโครงร่าง ประโยชน์ของการปรับโครงสร้างของคณะสงฆ์ให้มีการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมมากขึ้นนี้ นอกจากจะทำให้การบริหารงานคณะสงฆ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังทำให้คณะสงฆ์มีพลวัตและสามารถปรับตัวให้หลุดพ้นจากภาวะลงร่องและแข็งที่อซึ่งเป็นอาการเด่นชัดที่สุดในปัจจุบัน พลวัตของคณะสงฆ์นั้นเกิดขึ้นได้เพราะเปิดโอกาสให้ความหลากหลายทางความคิดเห็นของพระสงฆ์ได้แสดงตัวและมีการปะทะสังสรรค์อย่างสร้างสรรค์ในทุกระดับ แทนที่จะถูกกดกั้นไว้ทั้งโดยการปิดโอกาสไม่ให้แสดงออก และโดยการใช้อำนาจจัดการกับผู้เห็นต่าง ในยุคที่ความเห็นต่างเป็นสิงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะอิงอาคัยหสักธรรมวินัยเดียวกัน บาร์โหนลดหน้าท้อง แตกยังสามารถตีความต่างกันได้อยู่ดี ดังนั้นไม่มีวิธีใดดีกว่าการทำให้ความแตกต่างนั้นโผล่พ้นจากมุมมีดเพื่อจะได้ถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์และแก้ต่างอธิบายความได้อย่างเสรี นี้อาจเป็นวิธีดีที่สุดวิธีหนึ่งในการจัดการกับความหลากหลายทางด้านธรรมวินัย ซึ่งกำลังเป็นเชื้อให้แกํความหลากหลายของลัทธินิกายทั้งในวัดและนอกวัด สิงที่    พระธรรมปิฎกเรียกว่า “การทำพระธรรมวินัยให้วิปริต” นั้นกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนว่าสาเหตุสำคัญประการหนึ่งอยู่ที่ปัญหาการคักษาพุทธศาสนาในปัจจุบัน แต่การคักษาที่ถูกต้องไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนเท่านั้น การเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ก็สามารถให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่สาธารณซนได้ ไม่มีอะไรในประเด็นเรื่องธรรมวินัยที่ไม่สามารถน่ามาถกเถียงโต้แย้งกันได้อย่างเปิดเผย และเวทีอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้เรื่องนี้กลายเป็นการโต้แย้งด้วยเหตุผล ก็คือเวทีของคณะสงฆ์ สภาสงฆ์ในระดับต่างๆ สามารถเป็นเวทีแห่งความเห็นต่างในเรื่องธรรมวินัยได้ และหากเวทีดังกล่าวจะขยายตัวไปนอกวงการคณะสงฆ์ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากว่าในเวทีทางการของคณะสงฆ์นั้นมีการโต้เถียงกันด้วยเหตุผลและอย่างมีหลักเกณฑ์ อย่างน้อยก็จะช่วยให้ผู้คนนอกวงการสงฆ์มีที่ที่จะหันไปเงี่ยหูฟัง  บาร์โหนติดผนัง เพื่อตัดสินหรือลงความเห็นอย่างมีหลักเกณฑ์ มีใช่ว่าไปตามอำเภอใจ หรือคล้อยตามอำ๓อใจ หรือคล้อยตามไปกับใครคนใดคนหนึ่งอย่างง่าย ๆการจัดการกับความเห็นต่างในลักษณะนี้ แม้จะไม่ทำให้เกิดข้อสรุปหรือข้อปฏิบัติที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้    แต่อย่างน้อยก็จะทำให้ความหลากหลายนั้นอยูในขอบเขตที่เหมาะสม  บาร์โหนเพิ่มกล้าม ไม่แตกกระจายไปอย่างไร้กฎเกณฑ์อย่างที่กำลังมีแนวโน้มอยู่ในปัจจุบัน สิงที่จะเกิดขึ้นก็คือความหลากหลายในท่ามกลางเอกภาพ ซึ่งดีกว่าความหลากหลายอย่างไร้เอกภาพ เพราะนั่นเป็นความหลากหลายที่เกินขอบเขตธรรมวินัย อันแลเห็นได้แล้วในปัจจุบันโดยที่สำนักซึ่งทำตัวเช่นนั้นก็ยังอยู่ได้อย่างสบายในคณะสงฆ์ไทย หากแต่พ้นวิสัยที่ผู้ปกครองสงฆ์จะควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม การจัดการกับสำนักที่วิปริตไปจากพระธรรมวินัยนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากว่าคณะสงฆ์สามารถดำเนินการด้วยเหตุด้วยผลกับสำนักที่ทำพระธรรมวินัยให้วิปริต หรือมีความใจกว้างกับสำนักที่ติความพระธรรมวินัยต่างไปจากกระแสหลักภายในคณะสงฆ์

บาร์โหน

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ทำไมต้องวัดความสูงก่อนเลือกซื้อเชือกกระโดด






พวกนั้นหลงตัวเองว่า เป็นสายกลาง คืลก็ยังไม่มิ สมาธิมิจฉาด้วยวิมุติไม่ต้องพูดถึงเลย แต่เขาบอกว่า เขาสายกลาง พวกนี้คือ พวกที่พระ-พุทธเจ้าตรัสว่า ทุกวันนี้มีนักบวช หรือผู้ที่ตั้งใจ หรือพยายามหาประโยชน์แท้ ก็เข้าปาไปหมายจะหาประโยชน์แท้ เสร็จแล้วก็ไปคว้าเอาได้แต่เฉพาะแต่กิ่ง แต่ใบ โดยไม่เอาคืล ไม่เอาสมาธิ ไม่เอาปัญญา ไม่เอาวิมุติ เขาก็ได้แต่กิ่งและใบ กิ่งและใบนั้นเปรียบประดุจ ลาภ ยศ สรรเสริญ เยินยอส่วนคืลนั้นคือ สะเก็ดไม้ คืลนี่แค่สะเก็ด เขาไม่เอา สมาธินี่คือเปลือกปัญญานี่คือกระพี้ วิมุติคือแก่น ทุกวันนี้ไม่ต้องพูดถึงวิมุติ ปัญญาก็ไม่ใช่ปัญญาเป็นมิจฉาปัญญา สมาธิก็เป็นสมาธิมิจฉา คืลยิ่งไม่เข้าท่าเลย พูดจุลคืล มัชฌิมคืล มหาคืล ก็ยังไม่รู้เรื่อง ประชาชนเป็นพุทธศาสนิกชนกว่า90 เปอร์เซ็นต์ คืล 5 ข้อ ที่เป็นคืลพี้นฐานของศาสนาพุทธ เชือกกระโดดราคา ใน 62 ล้านคนนี้มิคืล 5 ครบถึงแสนคนหรือเปล่า ส่วนพระนี่วินัย 227 ข้อยังเละเลยคืลวินัยเป็นคืลที่มีบทลงโทษ เป็นคืลอาชญา คืลที่ฉันมื้อเดียวเถิดก็ไม่มิ อย่ามิเงินมิทองเลยก็ยังไม่มิ อย่ารับที่ไร่ที่นาที่ดินก็ไม่มิ ที่คาคออยู่เรื่องไปบังคับธรรมกายคืนที่ดิน แต่หารู้!หมว่ามิพระอยู่เท่าไรที่มิที่ดินอยู่ทุกวันนี้ นี่ก็เรื่องหนึ่งที่เขาทำอะไรไม'สำเร็จสำหรับประเด็นมัชฌิมา เข้าใจกันผิดหมด อาตมาจะอธิบายรูปธรรมง่ายๆ


ให้ฟัง ระหว่าง 0 กับ 100 คนคิดว่าเขาเริ่มต้นที่ 50 โดยไปมองอาตมานี่ว่าอยู่ที่ 0 แล้วเขาไปมองอีกทางหนึ่งว่า 100 ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม, เพราะอาตมาไม่ได้อยู่อย่างนี้... muslce (อธิบายด้วยมือ) ข้างนี้มักมาก เขาไม่ได้อยู่ที่ 50 ความมักมากของเขา เขาอยู่เกือบๆ จะใกล้กับธรรมกายแล้วเขาก็มองอาตมาว่าสุดโต่ง ความจริงอาตมาอยู่ 50 เขาจะลดลงมาหาอาตมาแค' 50 ก็ลดไม่ได้ เขาก็ว่าโต่งความจริงแล้ว พวกอาตมามองว่า เราจะลดลงกว่า (50) นี้ยังมิอีกถ้าถามว่ายังมิสิงที่จะลด ละ ได้อีกไหม ก็ตอบว่ามิอีก ยังไม'โต่งเลย เรามิสิงที่จะลด ละ ได้อีกตั้งเยอะ แต่เขาจะมาอยู่แค'อาตมา เขาก็มาไม่ได้แล้วเขาจึงมองว่าสุดโต่ง เท่านี้เขาก็ไม่มิอินทรีย์พละ ไม่มิความสามารถที่จะลด ละIHOป้จจ้ยทว!นเaomiliuauu ะ สมณะโพธิรักษ์หน่าย กระโดดเชือก คลาย ได้ ส่วนเรามีสิงที่จะลด ละ หน่าย คลาย ยิ่งกว่านี้อีกตั้งเยอะ เพราะพวกนี้ยังไม่เป็นพระอรหันต์เลย มีโสดาปัตติผล สกทาคามิผลอนาคามิผล ก็มีภูมิ,นิดๆ หน่อย โสดาเยอะ สกทาคาก็น้อยลง อนาคากำลังมีภูมิเนไปบ้าง ไม่ไดโต่งเลย แต่เขาเองกลับมองไม่ออก เขาอยู่ในพื้น เขาอยู่ในจุดนี้ ถ้าให้เรามาเป็นอย่างเขา เราเป็นไม่ได้ มันมากไป ที่อาตมากินอยู่ ทุกวันนี้ มันโต่งอะไร โดยด้านเศรษฐกิจแล้ว เรายังไม,ประณีต ประหยัดเท่าไรเลยแต่เขาอ้างว่า เขาทำเพื่อที่จะนำคนมาสู่ศาสนา ถ้าทำแบบสันติอโศกคนจะรับไม่ได้เขาคนนั้นต่างหากที่รับไม่ได้ แต่คนรับได้ เขาก็รับได้ และเมื่อมารับที่นี่แล้ว เขาจะรู้ด้วยว่า ยังจะมีที่ ละ หน่าย คลาย อีกเยอะ กว่าจะมาหาความเป็นสุญตา ความดับไม่เหลือความหมด สำหรับลันติอโศกนี่ ลดละจาก 50 ลงมาได้บ้าง แต่ยังไม่ 0 ส่วนเขาไม่ได้อยู่ที่ 50 แต่เขาอยู่ใกล้กับ100 ใกล้กับธรรมกายต่างหาก เพราะฉะนั้นจึงตัดสินกันไม่ได้หรอก มันถึงตัดสินกันไม่ลงเพราะเขาก็ลูบหน้าก็ยังปะจมูกอยู่ เพราะฉะนั้น เขายังจะตัดสินกันไม่ได้ เขายินดีทางนี้ เขาจึงบอกว่า ต้องสงวนไว้ เขายังเห็นด้วยกับทางนี้  เชือกกระโดดลดน้ำหนัก แต่ทางอาตมา เขาจะไม่เห็นด้วยเลย นั่นแหละบอกเข็มทิศให้ชัดเจนจะมามักน้อย ลันโดษ เขาไม่เอาป้จจุบัน บีการกล่าวว่า






สถาบันสงฆ์ยิ่งพัฒนาสูงขึ้น ก็เต็มไปด้วยผลประโยชน์มากมาย แล้วก็ไม่สามารถที่จะขึ้นำสังคมได้ พัอทำนเห็นอย่างไร?ยิ่งเป็นโลกิยะมากขึ้น มิลาภ ยศ สรรเสริญ โลกิยสุฃ เป็นแนวเดียวกันกับทุนนิยมมากขึ้น มันจะไปหาแนวอย่างธรรมกายกันทั้งหมด แล้วconcept ของพระผู้ใหญ่ต่างๆ นานาเหล่านี้ มีส่วนร่วมกับธรรมกายดังนั้นจึงไม่สามารถ จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรลงไป เขามองว่าทำดีนี่นา เขาเอาคนเข้าวัดตั้งมากตั้งมาย วัดที่ไหนสู้เขาได้ เขาก็ไม่ได้พาไปทำเลอะเทอะถ้าจะกล่าวว่าเป็นมิจฉาทิฎฐิทั้งสองนิกาย    ถ้าเป็นมิฉาทิฏฐิด้วยกัน ก็ไปด้วยกัน เพราะมีแนวร่วมที่อาตมาว่าเป็น Concept ร่วม ถ้าตัวเองทำได้ ตัวเองก็ทำเหมือนกัน เพราะขนาดนี้,เขายังมองไม่ออกเลยว่าธรรมกายไม่ถูกต้องอย่างไร จึงไปพูดกับเขาเรื่องเดียวว่านิพพานเป็นอัตตา ความจริงไม,ใช่เท่านั้น ไม่ใช่แค่นิพพานเป็นอัตตา ยังมีอื่นๆ อีก เช่น า) ถ้านิพพานเป็นอัตตา ก็เป็นเทวนิยม คนละขั้วกับพุทธพุทธคือ อเทวะ ด้งนั้นคนละศาสนาแล้ว ศาสนามีพระเจ้าในรูปของเขา ก็ถือว่า พระพุทธเจ้าคือ God คือปรมาตมัน เป็นสิงที่สูงที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด2) วิธีปฏิบัติ จุดสุดยอดของศาสนาคือนิพพานเป็นอนัตตา ของเขาเป็นอัตตาไปแล้ว เพี้ยนไปคนละศาสนาแล้ว 3) วิธีปฏิบัติไม่ใช่มรรคองค์แปดวิธีของเขาคือ การสะกดจิต อย่างฤๅษี 100% แล้วเขาก็สะกดจิตไว้หมดคนเหล่านี้  เชือกกระโดดนับรอบ ไปดึงออกมาไม่ได้หรอก เพราะสะกดจิตกันมา 20 กว่าปีแล้วไม่มีทางดึงเขาออก สะกดจิต นะลูกนะ เพ่งเข้าไปนะ ลึกเข้าไปนะ ที่ลูกแก้วนะการทำสมาธิแบบนั่งสะกดจิต เพ่งลูกแก้ว เพ่งธูป เพ่งเทียน เพ่งกสิณ เพ่งอะไรๆ สะกดจิตทั้งสิน ขอยืนยัน สมาธิของพระพุทธเจ้าไม่ได้สะกดจิตเลยวิจัย รู้ความจริงตามความเป็นจริง ในนามธรรมที่เป็นกิเลส ตัณหา อุปาทานและมีวิธีทำลายกิเลส ตัณหา อุปทาน อย่างชัดแจ้ง มันลดก็รู้ลด มันเพิ่มก็รู้เพิ่ม มันดับก็รู้ดับ มันไม่มีอีกแล้ว ไม่เกิดอีกแล้ว ตายสนิทแล้ว รู้ชัดรู้เจนไม่สะกดจิต เห็นสิงนั้น อย่างจริงจัง คนละเรื่องกันเลย เพราะฉะนั้นวิธีปฏิบัติก็เป็นวิธีฤๅษี ไม่ใช่มรรคของพระพุทธเจ้าเลย 3) การดำเนินชีวิต ใช้หลักทุนนิยม 100% ศาสนาพระพุทธเจ้านั้น ใช้หลักบุญนิยม ไม่ใช่ทุนนิยมคนละขั้วกันกับทุนนิยมด้วย

เชือกกระโดด

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

วิธีเลือกซื้อกระสอบทรายตั้งพื้น และ แขวน





เมื่อผลประกอบการทางธุรกิจเป็นไปด้วยดี ไม่มีแรงต่อต้านจากพนักงานท้องถิ่นจึงได้มีการขยายเครือข่ายขององค์กร โดยรวมเป็นโซนในเวลาต่อมา ซึ่งในแต่ละโซนจะประกอบไปด้วยหลายๆ กลุ่มประเทศ เช่น โชนภาคพื้นยุโรปโซนภาคพื้นตะวันออก (ได้แก่กลุ่มประเทศที่อยู่ในเครือสมาชิกสหพันธ์กีฬาเอเซียนเกมส์) โชน'อเม'ริกา (ประกอบด้วยประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศลาตินอเม'ริกา อเม'ริกากลาง และอเมริกาเหนือ) ปัจจุบันบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ได้เริ่มรวมเครือข่ายการบริหารการจัดการ โดยรวมเป็น “บริษัทแห่งโลก(global company)”ตัวอย่าง (สมมติ): แสดงผังการปรับเปลี่ยนองค์กรจากประเทศเดียวโดดๆ เป็นเครือข่ายกลุ่มประเทศอาเซียนของหน่วยธุรกิจค้าปลีก (ส่วนผังองค์กรของหน่วยธุรกิจอื่นๆ เช่น กลุ่มธุรกิจฝ่ายขายอุตสาหกรรม กลุ่มจัดการห่วงโซ่อุปทาน ก็จะมีโครงสร้างคล้ายๆ กัน)ตัวอย่าง (สมมติ) กระสอบทรายตั้งพื้นราคา แสดงผังการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรมาเป็นในรูปกลุ่มเครือข่ายของโซนตะวันออก โดยที่ประเทศโซนตะวันออกอาจจะเริ่มนับจากกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง อินเดีย ปากีสถาน กลุ่มประเทศอาเซียนกลุ่มประเทศที่ตั้งอยู่แถบมหาสมุทรแปซิฟิก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีญี่ปุน จีนแผ่นดินใหญ่ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเทศต่างๆ ที่องค์กรเหล,านั้นไปประกอบธุรกิจ) ส่วนผังองค์กรของหน่วยธุรกิจอื่นๆ ก็จะมีลักษณะโครงสร้างขององค์กรคล้ายๆ กัน  การจัดองค์กรแบบใหม่นี้จะแบ่งตามสายการบริหารหรือตามหน่วยงานที่มีหน้าที่ให้การสนับสนุนเฉพาะด้านกับธุรกิจ เช่น ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจขายส่งฝ่ายจัดหาและจัดชื้อ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายการเงิน ฯลฯ โดยให้แต่ละหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ประเภทเดียวกัน ไปรายงานโดยตรงกับรองประธานกรรมการบริหารของหน่วยธุรกิจนั้นๆ เพียงท่านเดียว ประโยชน์ที่ได้จากการจัดองค์กรแบบใหม่นี้ทำให้สามารถวัดประสิทธิภาพของหน่วยธุรกิจนั้นๆได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซ้อมมวย  สะดวกในการจัดสรรงบประมาณ เห็นผลประกอบการของหน่วยธุรกิจรวมเป็นกลุ่มประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถปรับลดตำแหน่งผู้บริหารระดับอาวุโสของแต่ละประเทศได้ และไปเลื่อนตำแหน่งผู้จัดการระดับรองลงไป ให้ไปดูแลรับผิดชอบงานเฉพาะหน่วยธุรกิจนั้นๆประโยชน์ที่ได้รับจากการปรับองค์กรมี เช่น  ลดตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่มีอยู่ในแต่ละประเทศลงได้อย่างน้อยหนึ่งตำแหน่งลดตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ  กระสอบทรายแขวน ลงได้หนึ่งตำแหน่งต่อหนึ่งประเทศเพิ่มตำแหน่งรองประธานกรรมการฯ ฝ่ายธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจขายส่ง ฝ่ายการเงิน ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายจัดชื้อ อีกอย่างละหนึ่งตำแหน่งเพื่อให้ไปดูแลรับผิดชอบผลประกอบการเป็นกลุ่มประเทศลดต้นทุนการจัดการของบริษัทฯ ด้านทรัพยากรมนุษย์ข้อดีและข้อเสียด้านอื่นๆ จะกล่าวไวในบทถัดไปการจัดองค์กรแบบนี้ ทำให้ผู้บริหารที่ดูแลรับผิดชอบหน่วยธุรกิจมากกว่าหนึ่งประเทศ ต้องเดินทางมากขึ้น บ่อยขึ้น รองประธานกรรมการบริหารหน่วยธุรกิจหนึ่งๆ ที่มีสำนักงานอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง อาจจะต้องสวมหมวกเป็นประธานกรรมการบริษัทฯ ประจำประเทศนั้นๆ โดยมีหน้าที่หลักเป็นตัวแทนของบริษัท สำหรับการติดต่อกับข้าราชการระดับสูง ดูแลนโยบายของบริษัทฯ ในภาพรวม เป็นต้น


กระสอบทราย

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บาร์โหนตั้งพื้น กับ บาร์โหนติดประตู แบบไหนที่ให้กล้ามเนื้อได้เร็วกว่า




 ทำฟ้านอย่าฟ้มีประสิทธิภาพคุณต้องใช้พลังความคิดอย่างที่บอกในบทก่อนๆ และต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ในที่ที่คุณอยู่คุณจะก้าวหน้าได้ก็ต่อเมื่อคุณทำได้ดีกว่าตอนนี้และไม่มีใครจะทำได้ดีขึ้น ถ้าทิ้งงานในปัจจุบันไว้ครงๆกลางๆโลกเราจะก้าวหน้าได้ ก็ต่อเมื่อคนทำหน้าที่ในตอนนีของตัวเองได้ดีกว่าที่จำเป็นจะต้องทำ  ถ้าคนไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง โลกก็จะก้าวถอยหลังคนๆ นั้นจะเป็นตัวถ่วงของลังคมให้คนอื่นต้องแบกรับภาระสังคมจะพัฒนาไม่ได้ ถ้าคนไม่ทำหน้าที่ของตัวเองวิวัฒนาการทางสังคมถูกซักนำโดยวิวัฒนาการทางร่างกายและจิตใจทุกๆ วันหากไม่ใช่ความสำเร็จก็คือความล้มเหลวเมื่อคุณได้อย่างที่ต้องการ นั้นก็คือความสำเร็จ ถ้าล้มเหลวอยู่ทุกวัน คุณก็ไม่มีทางที่จะรวยได้ แต่หากสำเร็จทุกๆ วันก็ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รวยสังคมจะพัฒนาไม่ไต้ถ้าคนไม่ทำหน้าที่ฃองตัวเอง วิวัฒนาการทางสังคมถูกซักนำโดยวิวัฒนาการทางร่างกายและจิตใจถ้ามีอะไรที่คุณทำได!นวันนี้แล้วไม่ทำ คุณก็ล้มเหลวในเรื่องนั้นแล้ว และผลของมันอาจจะรุนแรงมากกว่าที่คุณคิดคุณ โหนบาร์เพิ่มกล้าม ไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากการกระทำนั้นไม่ว่ามันจะเล็กน้อยสักแค'ไหน

คุณไม่รู้ขั้นตอนการทำงานของพลังที่คอยช่วยเหลือคุณอยู่ เรื่องมากมายอาจขึ้นอยู่กับการกระทำเพียงเล็กน้อยของคุณ และอาจเป็นสิ่งนั้นเองที่เปิดประตูสู่โอกาสที่ยิ่งใหญ่ การที่คุณไม่ยอมทำสิ่งใดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ได้รับสิ่งที่ต้อง การล่าช้าไปมากทุกๆ วัน ทำทุกอย่างเท่าที่คุณจะทำได้แต่มีช้อจำกัดที่คุณต้องจำเอาไว้ อย่าทำงานหนักจนเกินไป อย่าพยายามทำงานให้มากที่สุดโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุดอย่าทำงานของพรุ่งนี้ในวันนี้ อย่าทำงานของทั้งสัปดาห์ภายในวันเดียวมันไม่ใช่เรื่องของปริมาณ แต่สิ่งที่สำคัญคือประสิทธิภาพของแต่ละงานทุกๆ งานที่ทำอาจจะสำเร็จหรือว่าล้มเหลว  ทุกๆ งานที่ทำอาจมีประสิทธิภาพหรือว่าไม่มีทุกๆ  บาร์โหนติดประตูราคา งานที่ไร้ประสิทธิภาพก็คือความล้มเหลว และถ้าชีวิตของคุณทำแต่เรื่องไร้ประสิทธิภาพ ชีวิตคุณก็จะล้มเหลว และยิ่งคุณทำมาก ชีวิตของคุณก็จะยิ่งแย่แต่ถ้าทุกอย่างที่คุณทำมีประสิทธิภาพ ชีวิตของคุณก็ต้องประสบความสำเร็จความล้มเหลวเกิดจากการทำเรื่องไร้ประสิทธิภาพมากเกินไป และทำสิ่งที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอถ้าคุณไม่ทำตัวไร้ประสิทธิภาพ และทำงานให้มีประสิทธิภาพมากพอ คุณก็จะรวย ดังนั้นถ้าคุณทำแต่ละงานให้มีประสิทธิภาพได้ แน่นอนว่าคุณย่อมต้องรวยแล้วคุณจะทำตัวให้มีประสิทธิภาพไต้หรือไม่แน่นอนว่าคุณทำได้คุณทำทุกอย่างสำเร็จไต้ เพราะพลังทั้งหลายทำงานร่วมกับคุณ และพลังไม่สามารถล้มเหลวไต้พลังนั้นคอยช่วยเหลือคุณอยู่ และทำให้งานของคุณมีประสิทธิภาพไต้ คุณเพียงแค่ต้องใส่พลังเข้าไปทุกๆ งานที่!ร้ประสิทธิภาพคือความล้มเหลวและล้าชีวิตฃองคุณทำแต่เรื่องไร้ประสิทธิภาพ ชีวิตคุณก็จะล้มเหลวคุณจะทำงานอย่างเต็มที่ก็ได้ เหยาะแหยะก็ได้ แต่ถ้าคุณทำให้เต็มที่ทุกงาน คุณก็จะรวยคุณจะทำได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพทุกงานด้วยการยึดมั่นอยู่กับภาพในใจในขณะที่คุณลงมือทำ และเติมพลังแห่งศรัทธาและเป้าหมายลงไปจุดนี้เองที่คนล้มเหลวกัน  ขายบาร์โหนประกอบง่าย พวกเขาแยกพลังแห่งจิตออกจากการกระทำโดยใช้พลังต่างที่และต่างเวลาออกไปงานของเขาก็เลยไม่สำเร็จและไร้ประสิทธิภาพ แต่ถ้าคุณใส่พลังทั้งหมดลงไปในการกระทำ ทุกๆ งานก็จะสำเร็จ และทำให้คุณเช้าไปใกล้กับสิงที่ต้องการ และนำสิ่งที่ต้องการเข้ามาใกล้คุณรวดเร็วยิ่งขึ้น  ทำทุกๆ อย่างที่คุณทำได้ในวันหนึ่งๆ และทำมันอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อพูดว่าคุณต้องยึดมั่นอยู่กับภาพในใจในขณะที่ลงมือทำแต่ละงาน ไม่ได้หมายความว่าคุณจำเป็นต้องนึกถึงรายละเอียดทุกๆ อย่างตลอดเวลา นั่นคือสิ่งที่คุณต้องทำในเวลาว่าง บาร์โหนออกกำลังกาย  คิดถึงรายละเอียดทั้งหลายและพินิจพิจารณาจนกระทั้งมันฝังลึกลงไปในใจ ใช้เวลาว่างทั้งหมดของคุณทำเช่นนี้ ถ้าต้องการจะเห็นผลโดยเร็วถ้าคุณไม่ทำตัวไร้ประสิทธิภาพ และทำงานไหมีประสิทธิภาพมากพอ ดุณก็จะรวย ตังนั้นถ้าคุณทำแต่ละงานให้มีประสิทธิภาพได แน่นอนว่าดุณย่อมดองรวย




บาร์โหน

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

โหนบาร์สร้างรายได้อย่างมหาศาล




ด้วยเหตุนี้ สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในเวลานั้น นายสมัย เรืองไกร บรรณาธิการ'หนังลือพิมพ์ไทราย1วัน (ในเครือสารเสรี) เป็นนายกสมาคม จึงหยิบเอามาเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ โดยตั้งประเด็น“คุกคามเสรีภาพของหนังสือพิมพ์”  ในวันประชุมใหญ่มีสมาชิกซึ่งล้วนทำงานหนังสือพิมพ์จำนวนมากมาร่วมประชุมกัน“ทำชุ่ยๆ ตามอารมณ์แบบนี้ ถ้าหากเขียนอย่างนี้เป็นกบฏก็ไม,ต้องทำหนังสือพิมพ์กัน” นายประหยัด ศ.นาคะนาท บ.ก.สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาด้วยพูดอย่างเหลืออด“ท่านสหายนักหนังสือพิมพ์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยู่ห่างไกลแล้วเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ที่ท่านทั้งหลายอภิปรายกัน ข้าพเจ้าได้ทราบเพียงเท่าที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์เท่านั้น และโดยที่ข้าพเจ้าทราบว่า การประชุมนี้เป็นการประชุมของเพื่อนหนังสือพิมพ์ทั้งหลายเพื่อที่จะพิทักษ์สิทธิของหนังสือพิมพ์ และโดยที่ข้าพเจ้าและเพื่อนอีกหลายท่านได้เคยร่วมในการพิทักษ์สิทธินี้มาแล้ว ข้าพเจ้าจึงรู้สึกว่าเป็นการจำเป็นที่จะมาร่วมอยู่ในชุมนุมของท่านทั้งหลายในวันนี้”และเมื่อที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งเปิดการเจรจากับรัฐบาล  บาร์โหนราคาถูก “ผมอยากให้คณะกรรมการในซุดนี้ได้ประท้วงในวงกว้าง อย่าประท้วงในวงแคบ ขอให้ประท้วงว่า ขออย่าคุกคามสิทธิเสรีภาพ อีกประการหนึ่ง ขอให้เลิกบทบัญญัติที่ฃัดต่อระบอบประชาธิปไตย เมื่อมติของที่ประชุมใหญ่นี้อยากให้เลิกตัวบทกฎหมายที่ขัดต่อประชาธิปไตยอยากจะขอร้องให้ท่าน ส.ส. ที่มีหน้าที่โดยเฉพาะขอให้ร่วมมือกับเราในมติของที่ประชุมใหญ่ด้วย”นั่นคือคำอภิปรายของนายสนิท เอกชัย หัวหน้ากองบรรณาธิการ

“เดลิเมล์” ในขณะนั้นมติที่ประชุมวันนั้นคือจะยื่นประท้วงรัฐบาลกรณีคุกคามสิทธิเสรีภาพของหนังสือพิมพ์และขอให้ยกเลิก พ.ร.บ.การพิมพ์ รวมทั้งบทบัญญัติบางมาตราในกฎหมายอาญาด้วย โดยมีคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าไปดูแลและดำเนินการอีกสองวันต่อมา นายสมัย เรืองไกร ได้เชิญบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ (ไทย-จีน-อังกฤษ) มาร่วมประชุมหารือที่โรงแรมสุริยานนท์(อยู่ตรงหัวมุมอาคารถนนราชดำเนินตรงกันข้ามธนาคารกรุงเทพ สาขา ผ่านฟ้า) ซึ่งปัจจุบันเลิกไปแล้วเมื่อเริ่มประชุมได้มืการยืนไว้อาลัยต่อคำลังอันมืที่มาจาก พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ และที่ประชุมวันนั้นมีมติประท้วงด้วยการทำคำประท้วงตีพิมพ์ในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ด้วยข้อความที่เห็นพ้องต้องกันด้งนี้บรรทัดแรก  โหนบาร์เพิ่มกล้าม “เราล้เพื่อเสรีภาพของหนังสือพิมพ์” บรรทัดที่สอง“เพราะเสรีภาพของหนังสือพิมพ์” บรรทัดที่สาม “คือเสรีภาพของประ-ชาชน” ข้อความสามบรรทัดนี้สมาคมจัดทำเป็นพื้นดำตัวหนังสือขาวเป็นบล็อคขนาดเดียวกันหมด แล้วแจกจ่ายไปทุกหนังสือพิมพ์ ซึ่งต่างก็พร้อมใจกันตีพิมพ์ข้อความประท้วงโดยทั่วหน้ากันจะเห็นว่า บรรยากาศการเมืองระหว่างหนังสือพิมพ์กับรัฐบาลอยู่ข้างจะอึมครีม ยิ่งนายกสมาคมหนังสือพิมพ์ฯ คือบรรณาธิการไท-รายวันซึ่งเป็นกิจการภายใต้ซื่อ “บริษัท ธนะการพิมพ์ จำกัด” ก็เป็นที่รู้กันว่าใครคือนายทุนของบริษัทนี้ ว่ากันว่าทำเอา จอมพล ป. พิบูลสงคราม ถึงขั้นมีนตึ้บ...การประท้วงของบรรดาหนังสือพิมพ์ตามวิธีการนั้น รวมทั้งคณะกรรมการของสมาคม ผู้รับหน้าที่เจรจาความกัน ประการแรกแม้จะดำเนินการอย่างพร้อมเพรียงแล้ว แต่รัฐบาลก็ทำเหมือน

“ทอง1ไฝรู้ร้อน” ยิ่งการเจรจาด้วยแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าไม่เปิดประตูรับก็ว่าได้ดูจะเหมือนมีเพียงครั้งเดียวที่มีการประชุมร่วม เสร็จแล้วก็แล้วกันไป ส่วนการเลือกตั้งที่ถูกประณามว่า “สกปรกที่สุด” นั้น พรรคประชา-ธิปัตยืได้ยื่นฟ้องว่ามืการทุจริตในการเลือกตั้งซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงมหาดไทยยุคนั้น1ไม่มี “คณะกรรมการการเสือกตั้ง (กกต.)” อย่างปัจจุบันมหาดไทยจึงตกเป็นจำเลยเต็มๆนายควง อภัย'วงค่โ หัวหน้าพรรคเข้าเบิกความเป็นพยานโจทก์ปากแรก ให้การว่า พรรคเสรีมนังคศิลาระดมคนมาจากค่ายมวยศรแดงกับนักเลงจำนวนหนึ่งไปลงคะแนนโดยใช้ ขายบาร์โหนประกอบง่าย “บัตรตราไก่” (จอมพล ป. เกิดปีระกา-ไก่) บัตรประจำตัวคนลงคะแนนอีกส่วนหนึ่งมีลายเซ็นของ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ กำกับพยานหลักฐานที่ถือว่าเป็น “ไพ,ไฟ” ซึ่งแสดงต่อศาลนี้ ม.ร.ว.นํ้าเพซร์ เกษมสันต์ ซื้อจากผู้ดำเนินการด้วยราคาบัตรละหนึ่งพันบาทบ้าง, สองพันบาทบ้าง (เงินหนึ่งพันบาทยุคนั้นถือว่ามีค่ามาก)นายควงยังเบิกความถึงการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งดุสิตว่า มีความล่าช้าเพราะมีการเปลี่ยนหีบบัตรแล้วต้องแก้ตัวเลขในแบบฟอร์มกำกับหีบบัตรชนิดที่สามารถทำให้คะแนน จอมพล ป. ซื้นพรวดเดียวถึง๒๐๐ เปอร์เซ็นต์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายคนที่มาเบิกความเป็นพยานเฉพาะหน่วยเลือกตั้งวัดลาดบัวขาว พ.ต.หลวงสรสิทธิยานุการเบิกความว่ามีรถตำรวจแล่นมาจอดแล้วทิ้งถุงใส่บัตรที่กาไว้แล้วมาส่งให้กับกรรมการประจำหน่วย บอกว่าให้เอาบัตรในถุงเทลงในหีบบัตร กรรมการคนหนึ่งถามว่า “ทำไมต้องเอา (บัตร) ใส่หีบบัตร”  บาร์โหนติดประตูราคา คำตอบก็คือ “ถ้าไม่เอาใส่ก็เน่า” บัตรเน่าหรือคนเน่า?ผมนำเอาการเบิกความที่พยานนำหลักฐานบางอย่างมาแสดงและพฤติการณ์ส่อความดุตันอันสามารถบอกได้ว่า ผู้ปฏิบัติย่อมอาศัยอำนาจแฝงที่อยู่เบื้องหลังบงการให้ปฏิบัติด้วยวิธีการสารพัดมาให้ท่านผู้อ่านได้เห็นว่าตราบใดที่การเลือกตั้งอันเป็นรูปแบบของประชาธิปไตยดำเนินการโดยอิทธิพลหรืออำนาจจากผู้เป็นรัฐบาลที่ขาดจริยธรรมหรือการใช้อำนาจเงินกระทำการให้เกิดผลดีแก่ตนแล้วการเลือกตั้งนั้นๆ หนีไม่พ้นที่จะฤกตราว่า “สกปรก” ขาดเสียซึ่งความสำนึกที่ควรจะเป็นไปตามระบอบรัฐธรรม

บาร์โหน

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเล่นห่วงยาง และ บทสรุปในการเลือกซื้อ

รักษาโรคปวดเอวได้ ยังใช้รักษาโรคอื่นได้ผลดีด้วย กล่าวกันว่า เป็นจุดลับสำหรับเร้าความปรารถนาทางเซ็กช์ของผู้หญิงโดยเฉพาะจุดช่างเซียนเตี่ยน ไม่เพียงใช้รักษาโรคปวดเอวได้ ยังใช้รักษาโรคปัสสาวะรดที่นอนได้ผลชะงัด แต่ควรใช้วิธีรมด้วยโกฐจุฬาลำพาแห้งขนาดเท่าเม็ดข้าวเปลือก 5-6 ลูกต่อครั้ง ถ้ารังเกียจแผลเป็นหลังรมจุด จะใช้วิธีหยดเทียนแทนก็ได้จุดเทียนชู ใช้รักษาโรคปวดเอวและโรคท้องร่วงได้ผลดี แต่ควรใช้วิธีรมจุดด้วยโกฐจุฬาลำพาแห้งหรือจะทดลองหยดเทียนก็ได้ปวดประสาท,นงประสาทนั่งแยกออกจากไขกระดูกปลายกระดูกสันหลังส่วนเอวเข้าส่ส่1วนเชิงกรานและสะโพก แพยางเป่าลม แพยางหงส์ ลงไปตามขาด้านหลังถึงปลายเท้า พูดได้ว่า เป็นปลายประสาทที่กระจายกว้างมากที่สุด และสัมพันธ์กับอารมณ์ปรารถนาอย่าง แนบ แน่นจุดพื้นฐานที่สุดคือ จุดถุนเตี่ยน อยู่กลางสะโพกด้านในหว่างหัวกระดูกต้นขากับกระดูกเชิงกราน (ดูรูป 2-3.2) ถ้าใช้นิวกดแรง ๆ จะรู้สึกปวด ตรงนี้แหละคือรากประสาทนั่งสำหรับผู้ปวยที่มีอาการปวดประสาทนั่ง ถ้าได้รมจุดถุนเตี่ยนด้วยโกฐจุฬาลำพาแห้งลัก 5-7 ลูก อาการจะดีขึ้นท้นตาเห็น แต่จุดนี้เป็นจุดเร้าความปรารถนาทางเซ็กซ์ด้วย เวลารมจุด จะรู้สึกร้อนวูบวาบ ถ้าทนไม่ได้ จะใช้เข็มดอกเหมยเคาะกระตุ้นบริเวณจุดลักหลายสิบที จนผิวหนังออกสีแดงเรื่อก็ได้ขณะเดียวกัน ควรหยดเทียนบนจุดอินเหม็น (ถ้าขีดเลันตรงจากกลางรอยพับใต้สะโพกมาที่กลางรอยพับด้านหลังหัวเข่า แล้วแบ่งเป็น 14ส่วนหรือ “นิ้ว” เท่า ๆ ห่วงยางแฟชั่นราคา  กัน จุดอินเหม็นจะอยู่ห่างจากรอยพับใต้สะโพกลงมา 6 นิ้ว หรือห่างจากรอยพับด้านหัวเข่าขึ้นไป 8 นิ้ว ดูรูปที่ 2-10) ลัก 10หยด และใช้เข็มดอกเหมยเคาะหรือหยดเทียนบนจุดเหว,ยจง (อยู่หว่าง-กลางขาพับด้านหลังหัวเข่า ดูรูปที่2-10) และจุดเฉิงชาน (ถ้ายืนเขย่งปลายเท้าเกร็งน่อง จุดเฉิงชานจะอยู่ที่ยอดปลายแหลมรูปตัว V ควํ่าบริเวณน่อง ดูรูปที่2-11) ตามลำดับ จะได้ผลดียิ่งขึ้น จุดอินเหม็น เหว่ยจงและเฉิงชาน ไม่เพียงใช้รักษาโรคปวดประสาทนั่งได้ผลดี ยังใช้รักษาโรคปวดเอว เอวยอก และปวดขา ปวดน่องได้ผลชะงัดด้วย นอกจากนี้  เครื่องเล่นน้ำ ควรกระตุ้นจุดหยางหลิงเฉฺวียน (ดูรูปที่ 2-7) และจุดจู๋1ซาน,หลี่ (ดูรูปที่ 2-8) ประกอบกัน ถ้าอดทนใช้โกฐจุฬาลำพาแห้งรมจุดได้จะได้ผลเกินคาดยามปกติ เราควรใช้มือนวดคลึง ใช้เข็มดอกเหมยเคาะ หรือใช้เทียนหยด เพื่อกระตุ้นจุดเหล่านี้อย่างสมํ่าเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายเจ็บปวย หรือปวยหนักแล้วค่อยรักษา เพราะจะรักษายากและเสียเวลารักษามากปวดประสาทสามแฉกผู้ปวยอาการปวดประสาทสามแฉกบนใบหน้า ล่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ประสาทที่ว่านี้แยกเป็นสามแฉก ผู้ป่วยอาจปวดแฉกใดแฉกหนึ่ง

ห่วงยางแฟนซีให้เช่า

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

จากคำสัญญา ถึง สัญญาณ (ตอนพิเศษ)




                                                         

 โทนี่กับผมเจอกันตอนวันส่งท้ายปีเก่าในปี 1976 แล้วก็เป็นเพื่อนกันมาเนิ่นนานปานนี้ ตอนเราพบกันเขาทำงานถ่ายแบบอยู่ในนิวยอร์กซิตี เพราะหน้าตาเขาหล่อจึงมีคนมาสนใจเพียบเสมอและเป็นนายแบบขายดีก่อนจะไปเล่นหนัง ความเป็นเพื่อนระหว่างเราเป็นเรื่องที่ผมเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน เราสองคนเป็นคู่ต่างขั้วแทบทุกเรื่อง โทนี่เหมือนอัลเบิร์ตตรงที่ทั้งคู่เป็นคนคิดเองไม่ค่อยเป็นเอาเลย อาจบางทีเพราะความเปราะบางนี้ก็ได้ที่จุดประกายมิตรภาพระหว่างเรา ถ้าไม่นับที่เราต่างกันคนละเรื่องแล้ว ความถูกซะตาเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกเจอเลยทีเดียวเคลลี่เป็นลูกชายของแนท ดิง โคล

เขาเข้ามาอยู่ในชีวิตทีหลัง คือช่วงด้นปี 80 ที่เขาเริ่มคบกับโทนี่ เคลลี่เป็นรุ่นน้องที่เฉลียวฉลาด แต่โดนตามใจจนเสียเด็ก เจอครั้งแรกผมก็ไม่ชอบขี้หน้าเขาทันที เพราะหมอนี่ เล่นบาร์โหน หยิ่งเหลือรับ ตัวผมเชื่อว่าที่เขายอมคบผมก็เพราะผมสนิทกับโทนี่มากน่ะเอง อย่างน้อยก็เป็นเรื่องที่ผมเดาไว้ก่อนตอนแรก คุณพ่อของเขาเลียตั้งแต่เขายังเล็กมากเลยเดาไปอีกว่าเขาโดนตามใจจนเลียก็คงเพราะเรื่องนี้น่ะเองจนอีกหลายปีผ่านไปน่ะแหละผมถึงได้เรื่องราวในวัยเด็กของเขาจรงๆ เคลลี่เป็นลูกขอมาเลี้ยง ตามที่เคลลี่เล่า แนทเป็นคนขอมาเลี้ยงเอง ตอนที่แนท ดิง โคลตาย เคลลี่ก็เลยกลายเป็นภาระที่ไม่มืใครต้องการ อีกหลายปีผ่านไปเคลลี่ถึงเล่าให้ผมฟังว่าแม่กับพี่สาวของเขาไม่ยอมจ่ายเงินค่ารักษามะเร็งที่ประกัน

ราชานักร้องผิวดำ เจ้าของเพลงอมตะอย่าง Nature Bov ทายาทข'รงเขาคอลูกสาวนักร้องเพลงโซล นาตาลี โคล นั่นเองสุขภาพของเขาไม่คุ้มครองให้ เรื่องนี้เองทำให้ผมเพิ่งรับเถึงความปวดร้าวของเขาซึ่งแรกที่เราพบกันนั้นผมไม่เคยรับรู้เลยการทำตัวเย่อหยิ่งไม่เห็นหัวใครของเคลลี่เป็นหน้ากากที่เขาใช้ปิดบังความทุกข์ในใจนั่นเองเคลลี่กับโทนี่เลิกคบเป็นแฟนกัน ผมเลยไม่มีโอกาสเจอเคลลี่อีกเลยจนถึงปี 1986 เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ การติดเชื้อเอซไอวีช่วยทำให้เขาน้อมใจลงและหล่อหลอมให้เขาอ่อนโยนนุ่มนวลขึ้นมาก เขารับมือกับสภาพนี้ด้วย บาร์โหนติดประตู หนทางที่สร้างสรรค์ ใจผมเองอยากให้คนเราสามารถจัดการกับความทุกข์และการสูญเสียด้วยท่าทีเช่นนี้จริง ๆ เคลลี่เปิดใจรับมากขึ้นและเป็นคนมีเมตตากรุณายิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน ความทุกข์เป็นเครื่องช่วยเปลี่ยนคนบางคนให้ดีขึ้นจริงๆ ครับ แต่บางคนก็กลายเป็นพวกเก็บกดขมขื่นไปเลย ผมเจอเคลลี่โดยบังเอิญที่ซานตามอนิก้า เขาเลยซวนผมไปกินกาแฟกัน เราทบทวนความหลัง เขาเลยสารภาพว่าตอนนี้กำลังมีปัญหาเรื่องการเงินมาก ผมจึงรับปากจะให้เขายืมเงิน ซึ่งการณ์กลับสวนกับภาษิตโบราณเลยเรื่องเงินกลับทำให้เราสองคนสนิทกันมากขึ้น เคลลี่กับผมกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากกว่าสมัยก่อนไปจนตลอดซี'ว่ตของเขาเขาเช้ามาทำให้ครอบครัวเล็ก ๆ ของเราลมบูรณ์หกเดือนก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายน 1994 อัลเบิร์ตกับผมได้แต่ทนเห็นอาการของโทนี่ เคลลี่ และมาร์ค ไซม่อนทรุดลง เรากลัวว่านี่เรากำลังเห็นเล็นทางของตัวเองอยู่ใช่ไหม มีแต่วันที่พวกเขาป่วยและนอนโรงพยาบาลมากกว่าวันดี ในสภาพผอมเหมือนเซลยยิวค่ายเอาท์ซวิทข์มากกว่าจะเป็นมนุษย์ที่หล่อเหลา อ่อน  หวานและนิสัยดีอย่างที่เคยเป็นก่อนหน้านี้แค่ปีเดียว ทว่าเราก็ยังรวมใจกัน เชิดหน้าล้มนแล้วก้าวเดินต่อไปไม่ยอมแพ้มาร์ค ไซม่อน เป็นรักแท้รักแรกของผมครับ เราพบกันที่ไนต์คลับของลอลแอนเจลิสชื่อสตูดิโอวัน เพื่อนของเราทั้งสองคนแนะนำให้เขารู้จักผม ตัวเขาเองไม่ปิงผมเลยแม้แต่นิดเดียว ผมมาสืบรู้เอาทีหลังว่าเขาเป็นครูสอนแอโรบิค เลยยอมลงทุนเข้าคลาสเขาตั้งหลายอาทิตย์แน่ะกว่าเขาจะใจอ่อนยอมไปกินข้าวกลางวันด้วย หลังจากนัดเที่ยวด้วยกันอีกหลายครั้งความสัมพันธ์ของเราก็เริ่มมีการพัฒนา ในกลุ่มเล็กๆ ของเราอาการของมาร์คทรุดเร็วกว่าคนอื่นหมด ราวกับเขาขยันติดเชื้อซะทุกเชื้อที่มีในโลกเลยก็ว่าได้ ทีเซลล์ของเขาเหลือศูนย์มาถึงเจ็ดปีแม้แต่หมอของเขาเองก็ยังจนปัญญาไม่รู้ว่าเขายังรอดอยู่ได้อย่างไร ผมเองมั่นใจว่าเป็นเพราะมาร์คมีกำลังใจแรงกล้าที่ เครื่องออกกำลังกายลดหน้าท้อง จะมีชีวิตอยู่บวกกับความดื้อสุดๆ ว่าเขาต้องไม่ตาย มาร์คไม่เคยเชื่อเลยว่าตัวเองจะตาย เขาคิดถึงเอดล์ราวกับว่าตัวเองแค่ติดเชื้อหวัดเดี๋ยวก็หาย ในวาระอวสานนั้น คำสุดท้ายที่เขาเพียรพยายามจะพูดคือ “เดี๋ยวเราก็หายแล้ว เรานอนเตียงมาเกือบปีเรายังเหลือเวลาซดเชยอีกตั้งเยอะ เรายังหนุ่มเกินกว่าจะตาย”น่าเศร้านักที่เขาเชื่ออย่างถอดใจ แต่เขาเชื่อผิดมารคเด็กสุดในกลุ่มเรา จึงเป็นเรื่องทำใจยากที่สุดที่ต้องทนเห็นร่างกายเขาเสื่อมทรามลงไปทุกที มาร์คเป็นคนรักและมีความสุขกับชีวิต เต็มไปด้วยแผนการอนาคตที่วาดเอาไว้จนลมหายใจสุดท้ายทีเดียว อัลเบิร์ตกับผมพากันไปเยี่ยมไข้เขาที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ แต่ละครั้งที่ไป เราสองคนเป็นต้องคิดว่าเขาตายแน่นอน และแต่ละครา ตามสถิติที่ว่าไว้ เขาก็น่าจะตาย ไปเสียตั้งนานแล้ว แต่กลับฟืนตัวขึ้นมาได้อย่างชนิดที่พวกเราก็งงไปตามๆ และแล้วเขาก็กลับไปทรมานใหม่อีกครั้ง เราสองคนคบหาดูใจและเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปี 1985 เขาตายในปี 1995หลังอัลเบิร์ตและโทนี่

ซึ่งเป็นการตายทั้งที่อายุกังน้อยเกินไปเหมือนกับเพื่อนทั้งสองคนมาร์คกลายเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราทุกคนในกลุ่มการที่เขาสามารถเห็นความหวังแม้ในช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดนั่นเองที่เป็นตัวทำให้เขาอยู่มาได้หลายปีแบบที่ทางการแพทย์หาเหตุผลมาตอบไม,ได้ แต่กระนั้นเขาก็กังรอดชีวิตได้ไม่นานพอถ้าเกิดว่าตัวยาใหม่ออกมาเร็วก่อนหน้านั้นเพียงแค่ไม่กี่เดือนมาร์คก็คงรอดชีวิตจากเอดส์ได้ตอนโทนี่ตายในปี 1995 เคลลี่กับผมปวยหนักทั้งคู่ โทนี่ไม่เหมือนมาร์ค เขาถอดใจแล้ว เขาได้เงินก้อนมาบ้างจากหนังทีวีชุดและ ซื้อบาร์โหรได้ที่ไหนMission Impossible แล้วยังมีรายได้จากลิฃสิทธี้เข้ามาเรื่อยๆโทนี่ไต่เต้าเป็นนักแสดงได้จากความหล่อแบบเถือนๆ มาดแมนของเขา แต่พอหน้าตาและพลังของเขาหมดลง เขาก็หมดงานสำหรับโทนี่แล้ว งานแสดงคือทุกสิ่งในชีวิต

บาร์โหน

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การแยกประเภท ของกระสอบทราย และการเลือกกระสอบทรายให้เข้ากับการใช้งาน

                                                  

เอาน่า เดี๋ยวมันก็ดีเอง   เสียใจด้วยนะ   อย่าร้องไห้ไปเลย   ถือว่าซวยก็แล้วกันฯลฯคำพูดประมาณนี้เป็นคำพูดที่แสดงความเห็นใจก็จริงเราสามารถพูดได้ก็จริง แต่ไม่ควรจะพูดแล้วก็จากไป เพราะเชื่อเถอะว่าคนที่กำลังเสียใจหรือท้อแห้ใจนั้นไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไรหรอก ลองเป็นคำพูดประมาณนี้จะดีกว่า
 ไหนมาดูสิว่าตรงไหนที่พลาดไปทรายลองพยายามแกไขดูไหม   นั่งเศร้าอยู่ตรงนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ไปแกไขกันดีกว่า    ใครๆ ก็ต้องผ่านจุดนี้ แล้วแต่ว่าต่อไปจะกล้าที่จะสู้ต่อหรือถอยหนีก็เท่านั้น เธอคงไม่อยากจะถอยหนีใช่ไหมฯลฯจะสังเกตเห็นว่าคำพูดต่างๆ    เหล่านี้จะเป็นคำพูดที่ชี้ให้เห็นทางแก้ไข และกระตุ้นให้เขาฮึดขึ้นสู้ มากกว่าที่จะแสดงความเห็นใจเพียงอย่างเดียว ซึ่งบางทีก็ไม่ได้เข้าถึงใจของคนที่ท้อแท้หมดกำลังใจด้วยซํ้าไปห‘นุ่มๆ มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการพูดจากับคนรัก เพราะไม'ว่าจะพูดอะไรก็ดูเหมือนจะไม่เข้าหู หรือว่าไม่เข้าใจเธอเสียที กระสอบทรายราคาถูก จนต้องไปพูดหรือคิดในใจว่า “ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจัง” หรือบางทีผู้หญิงก็อาจจะบ่นว่า “ผู้ชายเนี่ยช่างไม่เข้าใจ หรือชอบพูดอะไรที่ไม่ดีเอาเสียเลย”ความจริงแล้วบางทีอาจจะเป็นการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน หรือไม่เข้าใจกันหรืออาจจะเกิดจากคำพูดที่ชวนทำให้ผู้หญิงคิดน้อยใจ หรือว่าเข้าใจผิดนั่นเองดังนั้น หากว่าเราอยากจะให้ความสัมพันธ์นี้ยืดยาวต่อไป เราลองมาดูเคล็ดสับที่จะช่วยทำให้เราพูดกับคนรักได้อย่างสร้างสรรค์เพราะหากว่าพูดดีกระสอบทรายทหารความสัมพันธ์ก็ยืดยาวไกลไปกว่าครึ่งแล้วล่ะเวลาพูดต้องสบตาความจริงก็ไม่ใช่เฉพาะกับคนรักเท่านั้นหรอกที่เวลาพูดต้องสบตา  แต่สำหรับคนรักแล้วควรจะสบตามากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะแสดงความจริงใจแล้ว ยังเป็นการแสดงอารมณ์ความรัก และความรู้สึกดีๆ ผ่านออกมาทางสายตาด้วยเราคงจะได้ยินคำกล่าวที่บอกว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจเพราะดวงตาสามารถบอกอารมณ์ ความรู้สึก และบางครั้งก็บอกได้ด้วยว่าคำพูดจริงๆ ในใจของคนคนนั้นคืออะไร ดังนั้น นอกจากจะใช้คำพูดเพียงอย่างเดียวแล้ว การใช้ดวงตาสื่อความหมายก็ดีไม่น้อย โดยเฉพาะกับคนรักที่ในสายตามักจะมีความรักให้แก่กันการที่เราก้มหน้าก้มตาอุปกรณ์ชกมวยหรือว่ามองไปทางอื่นเวลาพูดกับคนรักนั่นแสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจในบทสนทนาที่กำลังพูดกันอยู่ ทำให้เธอหรือเขารู้สึกไม่ดี เพราะในใจของคนรักทุกคนก็ต้องการเป็นคนสำคัญของคนรักนั่นเองพูดคุยกันในบรรยากาศดีๆบรรยากาศนั้นมีความสำคัญต่อคู่รักมาก เพราะบรรยากาศดีๆก็จะช่วยสร้างความโรแมนติก และช่วยสร้างความรักความเข้าใจ การพูดคุยในที่ที่จ้อกแจ้กจอแจก็คงจะสู้ที่ที่มีแต่เสียงธรรมชาติ หรือว่าที่เงียบๆ ไม่ได้หรอกในบางครั้งคนรักกันนั้นต้องการที่ที่มีบรรยากาศเพื่อพูดคุยกันและก็มีการวิจัยออกมาแล้วว่าการพูดคุยกันในบรรยากาศที่ดีๆ จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์รุดหน้าไปมากกว่าการที่พูดคุยกันในบรรยา-กาศที่เลวร้าย อย่างเช่นเสียงด้ง หรือว่าห้องที่ทึมๆ

กระสอบทรายหนัง

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

เรื่องสั้นชวนเขย่าขวัญ ความมืดและภูตผี

พอพวกเขาตั้งสติได้ จึงหยิบก้อนหินช่วยก้นขว้างใส่สุนัขต้วนั้นอีก มีก้อนหินหลายก้อนโดนมันเต็มๆ ถึงก้บร้องเอ๋ง ก่อนมันจะวิ่งหายไปกับความมืด เขาและเพื่อนๆ คิดว่ามันจะยังแอบชุ่มอยู่ใกล้ๆ นี่แหละ มันคงจะเฝืาดูเหตุการณ์และทำทีของพวกเราว่าจะทำอย่างไรกับอาหารจานโปรด อันเป็นศีรษะมนุษย์คนนี้สักครู่มีตำรวจหลายนายมาที่เกิดเหตุ พวกเราจึงเดินกลับไปสมทบกับตำรวจ แต่'ได้ให้เพื่อนสองคนเฝืาลูศีรษะคนตาย กลัวว่าสุนัขตัวนั้นจะแอบมาคาบศีรษะคนตายไปอีก

ศพของคนตายถูกรถไฟชนเละจำไม่ได้ว่าเป็นใคร อวัยวะของคนตายส่วนมากทะลักไหลเรี่ยราดอยู่ตามพื้นไป เชือกกระโดดแบบไหน ไกลหลายเมตร ห่างออกไปมีขบวนรถไฟบรรทุกนั้ามันจอดติดเครื่องยนต์ตังกระหึ่มเขากับเพื่อนไปยืนอยู่ข้างศพคนตายเป็นผู้หญิง น่าจะวัยกลางคน ศพที่เขาเห็นน่าจะเป็นซากศพมากกว่า เพราะร่างกายโดนรถไฟชนอย่างแรงจนฉีก ร่างกายแหลกเหลวเละเหมือนโจ๊กระลูกแตกหักไม่เป็นชิ้นดี แพทย์และตำรวจต่างทำหน้าที่ของตนอย่างระมัดระวัง เพราะเป็นคดีอาญาบ้านเมืองนอกจากจะมีตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัยแล้ว ยังมีบรรดาไทยมุงอีกจำนวนหนึ่งมายืนมองดูเหตุครั้งนี้

ซึ่งเขาจะเห็นบรรดาไทยมุงทุกสถานที่เกิดเหตุ และเขาได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนปะปนอยู่กับไทยมุง หน้าตาคล้ายกับคนตายที่โดนรถไฟชน เชือกกระโดดราคาถูก เขาเพ่งมองผู้หญิงคนนั้นด้วยความสนใจ จึงสะกิดแขนให้เพื่อนดูผู้หญิงคนตังกล่าว เพื่อนถึงกับผงะเอามือขยี้ลูกตา“คนหรือผี...!

เล่นหลอกกนสดๆ เลยหรือนี่’’เขาขนลุกเกรียวแต่ไม่บอกเรื่องนี้ใหัคนอื่นฟัง กลัวจะถูก ตำหนิและถูกหาว่าเป็นโรคประสาทจิตหลอน จึงเก็บเรื่องนี้เอาไว้เพียงแค่เขากับเพื่อนสองคนเท่านั้น ยังไม่ท้นได้ทำอะไรกับศพคนตายเลย เพื่อนๆที่อยู่เผีาศีรษะคนตายวิ่งหน้าตื่นมาสมทบ พวกเขาปากพูดละลั้าละลักด้วยเสียงอันสั่นเท“เฮีย...ผะ ผะ ผะ...ผีหัวขาดหลอกพวกผม”ตำรวจยศนายสิบสองนายที่ยืนอยู่ข้างเขาได้ยินเพื่อนคนนี้พูด รีบพูดสวนขื้นทันควันว่า“อาสาสมัครตาฝาดไปหรือเปล่า พาไปดูหน่อยสิ”เพื่อนๆ ที่โดนผีหลอกกล้าๆ กล้วๆ ปฏิเสธที่จะพาตำรวจสองนายไปดู เขาจึงพาตำรวจทั้งสองนายเดินไปลูศีรษะขาดที่ตกอยู่ข้างริมทางรถไฟ เชือกกระโดดไร้สาย แสงไฟจากสปอดไลต์ที่เขาส่องไปกระทบศีรษะของคนตายวางอยู่ แต่สภาพศีรษะคอขาดไม่ได้ตั้งอยู่ในลักษณะเดิมที่เขาเห็นเมื่อตะกี้ เขายังนึกฉงนและแปลกใจ ศีรษะคนตายขยับเปลี่ยนท่าตั้งใหม่ได้อย่างไร เสียงตำรวจนายหนึ่งพูดว่า“อาสา...นายล่องไฟจ่อไปใกล้ๆ ให้พวกผมดูศีรษะคนตายหน่อยสิ”
                                                                                      ติดตามตอนต่อไป......

เชือกกระโดดนักมวย

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2559

กล้ามเนื้อคนเราสามารถ แข็งแรงได้ด้วยการโหนบาร์ ตอนที่จบ

ท้าทาย นักเลงสมัยก่อนดีอย่าง พูดจริงไม่เอาเปรียบกันเขาถือนัก หากใครละเมิดไม่ใช่ลูกผู้ชาย ตาพวงเข้าทำนองอย่างนั้น นัดตีกันด้วยใมัคมแฝกนี่ไม่ได้เอาอย่างละครมาเล่าให้ฟังนะครับพี่หนอม มันเรื่องจริงๆ” นิคมกลัวผมไม่เชื่อจึงขอยืนยัน ผมพยักหน้าและว่า แถวบ้านผมอยุธยาก็มีอย่างนีหวดกันหัวล้างข้างแตก นิคมจึงเล่าต่อ“ตาพวงเล่นไม่ซื่อ ในหนังสือที่ท้ามา บอกซัดกันตัวต่อตัวในงานวัดแห่งหนึ่งใกล้แถวนี้ ถึงเวลาคืนนั้น กล้ามเนื้อ โผล่มาอีกสองเท่ากับสามรุมหนึ่ง ตาสมที่ร่างกายใหญ่ราวกับยักษ์ ถูกไม้คมแฝกของตาพวงลงหลังก่อนอันตับแรกหัวทิ่มไปข้างหน้านิดเดียว แล้วเอาขายันพื้นหันกลับมาหวดสีข้างตาพวงที่

ก้าวเข้าหาอย่างเร็วหมายเร่งเผด็จศึก ตังพลั่ก ขณะสาวเท้าจะตีซ้ำกลางหัวได้เพียงแค่ยกไม้เท่านั้น มาข้างหลังสองคนหนึ่งล่อพลั่กเข้าที่ก้านคอ ที่เหลือหวดเข้าขาพับด้านหลัง กะให้พับฐานจะได้รุมกินโต๊ะกันง่ายหน่อย แต่ไม่เป็นอย่างคิด ตาสมเพียงแต่เข่าย่อลงเล็กน้อยไม่ถึงกับทรุด อาตัยวิชามวยเก่า ใช้ลูกกวางเหลียวหลัง บาร์โหนราคาถูก ถีบหน้าเจ้าคนแรกผงะหงายไม่เป็นท่า เซหลุนๆ ไปล้มก้นจาเบ้า ตาพวงฉวยโอกาสถลันเข้าหาหมายตีแสกหน้า ตาสมที่รีบยกคมแฝกในมือตวัดรับอย่างรวดเร็ว แล้วหวดปับเข้าตรงขมับเขาเรียกพัดดอกไม้ใช่ไหม” นิคมจ้องหน้าถามผม ก็พยักหน้าและว่า ใช่มั้งเพราะตรงนั้นข้างพอดีนี่ ถือโอกาสชักนิคมระหว่างหยุดขอความเห็น“ตอนนั้น คุณอถู่ในเหตุการณ์เลยหรือ”“ใช่ ไม่เพียงแต่ผมคนเดียวหรอก คิดดูงานวัดมาเที่ยวแน่นขนัดมากมาย พ่อล่อกันนัวเนีย กระจายฮือราวกับผึ้งแตกรัง ตอนนั้น

กำลังดูดนตรีลูกทุ่งอถู่ พอผู้ว่าตีกันด้วยความยังเป็นเด็กก็อยากเห็นจะๆ ลักที ไม่กลัวเลยจนนิดเดียวเชื่อไหมว่า ผมและอีกหลายสิบตามติดดูตลอด เขาไม่ได้ใช้ปีนหรือระเบิดเหมือนสมัยนี้จึง 'ผู้ไ,'ม่น่า'จะเกิดอันตรายกับใคร ยังล่งเสียงเชียร์กัน ลั่นลานวัด บาร์โหนเพิ่มกล้าม ผมเองเข้าข้างตาสมเพราะคนบ้านเดียวกัน แล้วยังถูกรุมตั้งสาม”นิคมอธิบายจนลืมแก้วน้ำสีเหลือง เลยต้องเอื้อมหยิบส่งให้บอก กินซะก่อนเดี๋ยวเซ็งหมด แล้วถาม“สรุบผลเลยว่าใครแน่กว่ากัน”ตาสมสิครับ แกใช้ทั้งคมแฝกกับแม่ไม้มวยไทย ไม,นานหรอก ตาพวงต้องเพลางถอยหนีไปด้วย จนหายเช้ารวมกับฝูงซน ขณะตาลมสาละวนล่อไอ้สองคนนั่นม่อยกระรอกคาตีนที่ใหญ่หนาเตอะ แกถ่มน้าลายแล้วพูดด้วยความโกรธ “ไอ้พวกหน้าตัวเมียรุมถู” จากนั้นกลับบ้านเฉย งานวัดก็รื่นเริงกันต่อ ที่นี่เขาคิดเป็นธรรมดาเรื่องตีกัน เพราะเป็นประจำอยู่แล้ว ขออย่างเดียวต้องล้กันซึ่งหน้า นี่เป็นนักเลงสมัยเก่าของจริง ผมก็ว่าน่าสนุกนะครับพี่หนอมทั้งตื่นเต้นหวาดเสียว อีตอนที่ตาลมแกหวดแต่ละครั้งคุณเอ๋ย กระเด้งกระดอนตามไม้ทีเดียว แกเองโดนแต่ละทีก็ใช่เล่น แต่ทนไหว“แล้วขาของตาสมด้วนเพราะอะไรล่ะ” ผมซักระหว่างนิคมหยุดเล่าเพี่อผสมน้าอย่างว่า“แกเสียอถู่อย่าง บาร์โหนสำเร็จรูป ใจร้อน และอุปนิสัยทารุณ" นิคมกระดกเหล้าแล้วเล่าต่อ”ไม่ว่าคนหรือสัตว์ลองโกรธไม่ไว้เลย เมียสองคน พูดคำเดียว “เฮ้ยกูชอบมึงไปอถู่ด้วยกันไหม”ทั้งคู่ต้องมาหาถึงบ้านไม่งั้นแกก็'ไห้'พรรคพวกหรือ

ลูกน้องไปฉุดเอาดื้อๆ ไม่มีใครกล้าแตะต้อง พูดหยาบๆ นะ ขนาดหมาตัวหนึ่งเห่า ระหว่างที่เดินไปตาทาง ยังไม่ไว้เลยกลับบ้านไปเอาปีนมายิงขาจนไอ้ตัวนั้นเดินไม่ไต้ นี่แหละความโหดเหี้ยมของตสมมาระยะหนึ่ง ผมอายุลักสิบแปดเห็นจะได้ แกลงสมัครเช้าชิงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ตอนนั้นรู้สึกยังไม่มี อ.บ.ต. หรืออย่างใดนี่แหละ ให้ลูกน้องไปบอกตามบ้านเชิญทุกคนมากินเลี้ยงยังหลังที'เราไปเมื่อครู่นี้ไง ลัดโต๊ะยาวยืดกะว่าคนต้องมาเป็นร้อย แล้วก็จริง วันนั้นทั้งหญิงชาย เฒ่าแก่เพียบ “พี่เชื่อไหม” นิคมหันถามผม ก็รีบพูดแทรก “บอกมาก่อนสิเรื่องอะไร น่าเชื่อหรือไม่'ถึงจะตอบฐก” หนุ่มเจ้าของไร่ยาสูบค้อนเพราะรู้ผมแกล้งขัดจังหวะเล่นจึงว่าเล่าต่อเถอะเชื่อหมดทุกคำ

บาร์โหน