วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ทำไมต้องวัดความสูงก่อนเลือกซื้อเชือกกระโดด






พวกนั้นหลงตัวเองว่า เป็นสายกลาง คืลก็ยังไม่มิ สมาธิมิจฉาด้วยวิมุติไม่ต้องพูดถึงเลย แต่เขาบอกว่า เขาสายกลาง พวกนี้คือ พวกที่พระ-พุทธเจ้าตรัสว่า ทุกวันนี้มีนักบวช หรือผู้ที่ตั้งใจ หรือพยายามหาประโยชน์แท้ ก็เข้าปาไปหมายจะหาประโยชน์แท้ เสร็จแล้วก็ไปคว้าเอาได้แต่เฉพาะแต่กิ่ง แต่ใบ โดยไม่เอาคืล ไม่เอาสมาธิ ไม่เอาปัญญา ไม่เอาวิมุติ เขาก็ได้แต่กิ่งและใบ กิ่งและใบนั้นเปรียบประดุจ ลาภ ยศ สรรเสริญ เยินยอส่วนคืลนั้นคือ สะเก็ดไม้ คืลนี่แค่สะเก็ด เขาไม่เอา สมาธินี่คือเปลือกปัญญานี่คือกระพี้ วิมุติคือแก่น ทุกวันนี้ไม่ต้องพูดถึงวิมุติ ปัญญาก็ไม่ใช่ปัญญาเป็นมิจฉาปัญญา สมาธิก็เป็นสมาธิมิจฉา คืลยิ่งไม่เข้าท่าเลย พูดจุลคืล มัชฌิมคืล มหาคืล ก็ยังไม่รู้เรื่อง ประชาชนเป็นพุทธศาสนิกชนกว่า90 เปอร์เซ็นต์ คืล 5 ข้อ ที่เป็นคืลพี้นฐานของศาสนาพุทธ เชือกกระโดดราคา ใน 62 ล้านคนนี้มิคืล 5 ครบถึงแสนคนหรือเปล่า ส่วนพระนี่วินัย 227 ข้อยังเละเลยคืลวินัยเป็นคืลที่มีบทลงโทษ เป็นคืลอาชญา คืลที่ฉันมื้อเดียวเถิดก็ไม่มิ อย่ามิเงินมิทองเลยก็ยังไม่มิ อย่ารับที่ไร่ที่นาที่ดินก็ไม่มิ ที่คาคออยู่เรื่องไปบังคับธรรมกายคืนที่ดิน แต่หารู้!หมว่ามิพระอยู่เท่าไรที่มิที่ดินอยู่ทุกวันนี้ นี่ก็เรื่องหนึ่งที่เขาทำอะไรไม'สำเร็จสำหรับประเด็นมัชฌิมา เข้าใจกันผิดหมด อาตมาจะอธิบายรูปธรรมง่ายๆ


ให้ฟัง ระหว่าง 0 กับ 100 คนคิดว่าเขาเริ่มต้นที่ 50 โดยไปมองอาตมานี่ว่าอยู่ที่ 0 แล้วเขาไปมองอีกทางหนึ่งว่า 100 ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม, เพราะอาตมาไม่ได้อยู่อย่างนี้... muslce (อธิบายด้วยมือ) ข้างนี้มักมาก เขาไม่ได้อยู่ที่ 50 ความมักมากของเขา เขาอยู่เกือบๆ จะใกล้กับธรรมกายแล้วเขาก็มองอาตมาว่าสุดโต่ง ความจริงอาตมาอยู่ 50 เขาจะลดลงมาหาอาตมาแค' 50 ก็ลดไม่ได้ เขาก็ว่าโต่งความจริงแล้ว พวกอาตมามองว่า เราจะลดลงกว่า (50) นี้ยังมิอีกถ้าถามว่ายังมิสิงที่จะลด ละ ได้อีกไหม ก็ตอบว่ามิอีก ยังไม'โต่งเลย เรามิสิงที่จะลด ละ ได้อีกตั้งเยอะ แต่เขาจะมาอยู่แค'อาตมา เขาก็มาไม่ได้แล้วเขาจึงมองว่าสุดโต่ง เท่านี้เขาก็ไม่มิอินทรีย์พละ ไม่มิความสามารถที่จะลด ละIHOป้จจ้ยทว!นเaomiliuauu ะ สมณะโพธิรักษ์หน่าย กระโดดเชือก คลาย ได้ ส่วนเรามีสิงที่จะลด ละ หน่าย คลาย ยิ่งกว่านี้อีกตั้งเยอะ เพราะพวกนี้ยังไม่เป็นพระอรหันต์เลย มีโสดาปัตติผล สกทาคามิผลอนาคามิผล ก็มีภูมิ,นิดๆ หน่อย โสดาเยอะ สกทาคาก็น้อยลง อนาคากำลังมีภูมิเนไปบ้าง ไม่ไดโต่งเลย แต่เขาเองกลับมองไม่ออก เขาอยู่ในพื้น เขาอยู่ในจุดนี้ ถ้าให้เรามาเป็นอย่างเขา เราเป็นไม่ได้ มันมากไป ที่อาตมากินอยู่ ทุกวันนี้ มันโต่งอะไร โดยด้านเศรษฐกิจแล้ว เรายังไม,ประณีต ประหยัดเท่าไรเลยแต่เขาอ้างว่า เขาทำเพื่อที่จะนำคนมาสู่ศาสนา ถ้าทำแบบสันติอโศกคนจะรับไม่ได้เขาคนนั้นต่างหากที่รับไม่ได้ แต่คนรับได้ เขาก็รับได้ และเมื่อมารับที่นี่แล้ว เขาจะรู้ด้วยว่า ยังจะมีที่ ละ หน่าย คลาย อีกเยอะ กว่าจะมาหาความเป็นสุญตา ความดับไม่เหลือความหมด สำหรับลันติอโศกนี่ ลดละจาก 50 ลงมาได้บ้าง แต่ยังไม่ 0 ส่วนเขาไม่ได้อยู่ที่ 50 แต่เขาอยู่ใกล้กับ100 ใกล้กับธรรมกายต่างหาก เพราะฉะนั้นจึงตัดสินกันไม่ได้หรอก มันถึงตัดสินกันไม่ลงเพราะเขาก็ลูบหน้าก็ยังปะจมูกอยู่ เพราะฉะนั้น เขายังจะตัดสินกันไม่ได้ เขายินดีทางนี้ เขาจึงบอกว่า ต้องสงวนไว้ เขายังเห็นด้วยกับทางนี้  เชือกกระโดดลดน้ำหนัก แต่ทางอาตมา เขาจะไม่เห็นด้วยเลย นั่นแหละบอกเข็มทิศให้ชัดเจนจะมามักน้อย ลันโดษ เขาไม่เอาป้จจุบัน บีการกล่าวว่า






สถาบันสงฆ์ยิ่งพัฒนาสูงขึ้น ก็เต็มไปด้วยผลประโยชน์มากมาย แล้วก็ไม่สามารถที่จะขึ้นำสังคมได้ พัอทำนเห็นอย่างไร?ยิ่งเป็นโลกิยะมากขึ้น มิลาภ ยศ สรรเสริญ โลกิยสุฃ เป็นแนวเดียวกันกับทุนนิยมมากขึ้น มันจะไปหาแนวอย่างธรรมกายกันทั้งหมด แล้วconcept ของพระผู้ใหญ่ต่างๆ นานาเหล่านี้ มีส่วนร่วมกับธรรมกายดังนั้นจึงไม่สามารถ จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรลงไป เขามองว่าทำดีนี่นา เขาเอาคนเข้าวัดตั้งมากตั้งมาย วัดที่ไหนสู้เขาได้ เขาก็ไม่ได้พาไปทำเลอะเทอะถ้าจะกล่าวว่าเป็นมิจฉาทิฎฐิทั้งสองนิกาย    ถ้าเป็นมิฉาทิฏฐิด้วยกัน ก็ไปด้วยกัน เพราะมีแนวร่วมที่อาตมาว่าเป็น Concept ร่วม ถ้าตัวเองทำได้ ตัวเองก็ทำเหมือนกัน เพราะขนาดนี้,เขายังมองไม่ออกเลยว่าธรรมกายไม่ถูกต้องอย่างไร จึงไปพูดกับเขาเรื่องเดียวว่านิพพานเป็นอัตตา ความจริงไม,ใช่เท่านั้น ไม่ใช่แค่นิพพานเป็นอัตตา ยังมีอื่นๆ อีก เช่น า) ถ้านิพพานเป็นอัตตา ก็เป็นเทวนิยม คนละขั้วกับพุทธพุทธคือ อเทวะ ด้งนั้นคนละศาสนาแล้ว ศาสนามีพระเจ้าในรูปของเขา ก็ถือว่า พระพุทธเจ้าคือ God คือปรมาตมัน เป็นสิงที่สูงที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด2) วิธีปฏิบัติ จุดสุดยอดของศาสนาคือนิพพานเป็นอนัตตา ของเขาเป็นอัตตาไปแล้ว เพี้ยนไปคนละศาสนาแล้ว 3) วิธีปฏิบัติไม่ใช่มรรคองค์แปดวิธีของเขาคือ การสะกดจิต อย่างฤๅษี 100% แล้วเขาก็สะกดจิตไว้หมดคนเหล่านี้  เชือกกระโดดนับรอบ ไปดึงออกมาไม่ได้หรอก เพราะสะกดจิตกันมา 20 กว่าปีแล้วไม่มีทางดึงเขาออก สะกดจิต นะลูกนะ เพ่งเข้าไปนะ ลึกเข้าไปนะ ที่ลูกแก้วนะการทำสมาธิแบบนั่งสะกดจิต เพ่งลูกแก้ว เพ่งธูป เพ่งเทียน เพ่งกสิณ เพ่งอะไรๆ สะกดจิตทั้งสิน ขอยืนยัน สมาธิของพระพุทธเจ้าไม่ได้สะกดจิตเลยวิจัย รู้ความจริงตามความเป็นจริง ในนามธรรมที่เป็นกิเลส ตัณหา อุปาทานและมีวิธีทำลายกิเลส ตัณหา อุปทาน อย่างชัดแจ้ง มันลดก็รู้ลด มันเพิ่มก็รู้เพิ่ม มันดับก็รู้ดับ มันไม่มีอีกแล้ว ไม่เกิดอีกแล้ว ตายสนิทแล้ว รู้ชัดรู้เจนไม่สะกดจิต เห็นสิงนั้น อย่างจริงจัง คนละเรื่องกันเลย เพราะฉะนั้นวิธีปฏิบัติก็เป็นวิธีฤๅษี ไม่ใช่มรรคของพระพุทธเจ้าเลย 3) การดำเนินชีวิต ใช้หลักทุนนิยม 100% ศาสนาพระพุทธเจ้านั้น ใช้หลักบุญนิยม ไม่ใช่ทุนนิยมคนละขั้วกันกับทุนนิยมด้วย

เชือกกระโดด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น